โปรแกรม Dysport Botox: การฉีดลดริ้วรอยและการลิฟหน้าที่เห็นผลรวดเร็ว

Dysport คืออะไร? ทำความเข้าใจทางเลือกในการรักษาริ้วรอย

      Dysport และ Botox เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ทั้งสองผลิตภัณฑ์ใช้สารพิษโบทูลินัมในการช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แม้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการคืออะไร 

Dysport คือสารสกัดโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่ผลิตในประเทศอังกฤษ มักเรียกว่า “โบท็อกอังกฤษ” โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:

  • ใช้สำหรับลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า
  • มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้กระจายตัวได้ดีในบริเวณกว้าง เหมาะสำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ3
  • ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท acetylcholine ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดริ้วรอย

นอกจากการใช้บนใบหน้า Dysport ยังสามารถใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง (spasticity) ในแขน ขา และเท้า รวมถึงใช้รักษาอาการคอบิด (cervical dystonia) ในผู้ใหญ่4 Dysport สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียระยะยาวต่อผิวและร่างกาย

Dysport เป็นผลิตภัณฑ์ฉีดที่ใช้ในการรักษาความงามเพื่อลดริ้วรอยและเส้นบนใบหน้า โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:

กลไกการทำงานเป็นเอกลักษณ์

  • Dysport ประกอบด้วยสารโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิด A ซึ่งทำงานโดยการยับยั้งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง1
  • การยับยั้งนี้ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยบนผิวหนังลดลง

ประโยชน์ด้านความงาม

  • ลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้ว รอยตีนกา และรอยย่นบนหน้าผาก15
  • ช่วยยกคิ้วและแก้ไขปัญหาหนังตาตก2
  • ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยการฉีดบริเวณกราม2
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ

จุดเด่น

  • เห็นผลเร็วภายใน 2-3 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ใช้เวลาในการรักษาสั้น ประมาณ 15-30 นาที
  • ผลการรักษาอยู่ได้นาน 3-4 เดือน
  • ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ฟื้นตัวเร็ว

Dysport สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้าและร่างกาย ดังนี้:

บริเวณใบหน้า 

  • หน้าผาก เพื่อลดริ้วรอยแนวนอน
  • ระหว่างคิ้ว (กลาเบลลา) เพื่อลดริ้วรอยแนวตั้ง
  • รอบดวงตา (ตีนกา)
  • ข้างจมูก (บันนี่ไลน์)
  • มุมปาก
  • คิ้ว เพื่อยกคิ้ว
  • ขากรรไกร เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว
  • ริมฝีปากบน เพื่อลดรอยยิ้มเห็นเหงือก 

บริเวณอื่นๆ

  • คอ เพื่อลดริ้วรอยแนวนอน
  • รักแร้ เพื่อลดเหงื่อ
  • ไหล่และแขน เช่น กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ ไทรเซ็ปส์
  • มือ เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ

การฉีด Dysport ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยแพทย์จะพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมตามสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล

ข้อดีของ Dysport Botox:

  • กระจายตัวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทําให้หน้าแข็ง
  • เห็นผลเร็ว โดยทั่วไปภายใน 2-3 วัน
  • เหมาะสําหรับลดริ้วรอยลึก โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อที่กว้าง เช่น หน้าผาก
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นเล็กน้อย
  • เหมาะสําหรับเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับใบหน้า
  • สามารถใช้ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดขนาดต้นแขนและน่องได้

ข้อเสียของ Dysport Botox:

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ําเป็นระยะ
  • อาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม หรือช้ําบริเวณที่ฉีด
  • มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น หนังตาตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือหายใจลําบาก หากฉีดไม่ถูกวิธี
  • การใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรในการแสดงสีหน้า
  • อาจทําให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าอ่อนแอลงหากใช้เป็นประจําเป็นเวลานาน

ประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ทั้ง Dysport และ Botox ได้รับการรับรองจาก FDA และถือว่ามีความปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกต้อง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมักเป็นเพียงอาการปวดหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด3

ประสิทธิภาพของทั้งสองผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความรุนแรงของริ้วรอย และการตอบสนองของแต่ละบุคคล บางการศึกษาพบว่า Dysport อาจออกฤทธิ์เร็วกว่าและอยู่ได้นานกว่า แต่ผลลัพธ์ยังไม่สรุปแน่ชัด

การเลือกระหว่าง Dysport และ Botox

  1. การตัดสินใจว่าจะใช้ Dysport หรือ Botox ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาจาก:

    • บริเวณที่ต้องการรักษา
    • ประวัติการรักษาที่ผ่านมา
    • ความคาดหวังของผลลัพธ์
    • ค่าใช้จ่าย (ทั้งสองมีราคาใกล้เคียงกัน ประมาณ $300-$600 ต่อครั้ง)2

    ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด การรักษาด้วย Dysport หรือ Botox ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย

วิธีเช็ค Dysport ของแท้มีดังนี้:

ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ 

  • กล่องสามารถเปิดจากด้านหน้าได้
  • มีโลโก้และรายละเอียดของบริษัท Galderma ชัดเจน
  • ไม่มีรอยฉีกขาด บุบ หรือรอยเปื้อนใดๆ

ตรวจสอบฉลาก 

  • มีเลขทะเบียน อย. ชัดเจน
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • ระบุวันหมดอายุและหมายเลขล็อต (Lot) ชัดเจน 

ตรวจสอบหมายเลขล็อต 

  • เลข Lot บนกล่องต้องตรงกับเลขบนขวดยา
  • สามารถโทรเช็คเลข Lot และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-023-1800 ต่อ 402 

ตรวจสอบขวดยา 

  • เป็นผลึกยาเคลือบอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ
  • ต้องผสมน้ำเกลือและใช้เข็มดูดขึ้นมาเมื่อใช้เท่านั้น 

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือราคาถูกผิดปกติ
  • ควรรับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

การตรวจสอบความแท้ของ Dysport เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งานทุกครั้ง 

การดูแลตัวเองหลังฉีด Dysport มีข้อแนะนำสำคัญดังนี้:

ข้อควรปฏิบัติทันทีหลังฉีด 

  • อยู่ในท่าตั้งตรงอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ไม่นอนราบหรือก้มหน้านานๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
  • ออกกำลังกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเบาๆ เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว ยกคิ้ว

ข้อควรปฏิบัติหลังจากฉีดครบ 24-48 ขั่วโมง 

  • งดออกกำลังกายหนัก
  • หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อาบน้ำร้อน
  • งดแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด
  • นอนหงายและยกศีรษะสูง
  • งดดื่มแอลกอฮอล์

การดูแลผิวในระยะยาว 

  • ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวอ่อนโยน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • งดทรีทเมนต์หน้าอื่นๆ เช่น เลเซอร์ เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานขึ้น หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Dysport Botox กี่วันเห็นผล?

Dysport เริ่มเห็นผลภายใน 2-3 วันหลังการฉีด และเห็นผลเต็มที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยระยะเวลาที่เห็นผลจะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ฉีด:

  • ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ตีนกา ระหว่างคิ้ว: เห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • ลดกราม ปรับรูปหน้า: เห็นผลประมาณ 14 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
  • ลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ: เห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์
  • ลดเหงื่อ/รักแร้: เห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • ต้นแขน/น่อง: เห็นผลใน 3 เดือน

ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ขนาดของกล้ามเนื้อ และความรุนแรงของปัญหา5 แนะนำให้กลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์หลังการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์

Dysport Botox อยู่ได้นานเท่าไหร่?

โดยทั่วไป Dysport อยู่ได้ประมาณ 3-5 เดือน แต่ระยะเวลาที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล:

  • ผลโดยเฉลี่ยอยู่ได้ 3-4 เดือน14
  • บางการศึกษาพบว่าอาจอยู่ได้นานถึง 5 เดือน12
  • ในบางกรณีอาจอยู่ได้นานถึง 6 เดือนหรือมากกว่า28

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาที่ Dysport อยู่ได้ ได้แก่:

  • บริเวณที่ฉีด – กล้ามเนื้อใหญ่อาจอยู่ได้นานกว่า4
  • ปริมาณที่ฉีด4
  • การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า4
  • อัตราการเผาผลาญของแต่ละคน4
  • ความถี่ในการรับการรักษา4

เพื่อรักษาผลลัพธ์ แนะนำให้ทำการรักษาซ้ำประมาณ 2-4 ครั้งต่อปี2 อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล

Dysport Botox ลิฟหน้าได้ไหม?

การลิฟหน้าด้วย Dysport Botox :

    • สามารถใช้ลิฟท์กรอบหน้า เหนียง และคอ โดยจะเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์1
    • ช่วยยกคิ้วและแก้ไขปัญหาหนังตาตก โดยการฉีดบริเวณเหนือคิ้วเพื่อยกคิ้วและเปิดตาให้ดูสดใส1
    • สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยการฉีดบริเวณกราม ซึ่งจะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกรามและทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น1
    • ช่วยยกมุมปากที่ตกให้ดูยิ้มมากขึ้น โดยการฉีดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง1

    การใช้ Dysport เพื่อลิฟท์หน้าเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และใช้เวลาในการรักษาสั้น โดยทั่วไปใช้เวลาเพียง 10-20 นาที3 อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล